สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมศพ หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ดิศกุล

วันที่ 20 ตุลาคม พุทธศักราช 2564 เวลา 17 นาฬิกา 50 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังศาลา 3 วัดเทพศิรินทราวาสในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมศพ หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ดิศกุล ซึ่งถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคติดเชื้อในกระแสโลหิต เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พุทธศักราช 2564 สิริอายุได้ 81 ปี 11 เดือน

หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ดิศกุล เป็นโอรสในหม่อมเจ้าดิศศานุวัติ ดิศกุล และหม่อมเจ้าลุอิสาณ์ ดิศกุล เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2482 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยอินเดียนา (บลูมมิงตัน) ประเทศสหรัฐอเมริกา เข้ารับราชการที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปี 2510 ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่งราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และปฏิบัติงานสนองพระราชดำริด้านการพัฒนาของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีตลอดพระชนม์ชีพ

นับตั้งแต่ปี 2515 เป็นต้นมา หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ, ประธานคณะกรรมการ และประธานคณะที่ปรึกษาของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตามลำดับ เป็นกำลังหลักในการชักนำภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน พลิกฟื้นภูเขาหัวโล้น พื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง พื้นที่ทรงงาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงราย ประมาณหนึ่งแสนไร่ ให้กลายเป็นผืนป่าต้นน้ำอันสมบูรณ์ ทั้งยังลดปัญหาการปลูกพืชเสพติดในวงกว้าง ตามแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และยังนำประสบการณ์ในการสนองงานพระราชดำริและความสำเร็จของโครงการพัฒนาดอยตุงฯ ไปขยายผลในประเทศเมียนมา ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศอัฟกานิสถาน ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในฐานะต้นแบบของแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับโลก

หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดาให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ด้อยโอกาส ได้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ, มูลนิธิรากแก้ว และโครงการร้อยใจรักษ์ เพื่อขยายงานการพัฒนาที่ยั่งยืนให้สัมฤทธิ์ผลอย่างกว้างขวาง ซึ่งการอุทิศตนทำงานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนมายาวนานกว่า 50 ปีนี้ ทำให้เป็นที่ยอมรับและยกย่องจากองค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ

  • ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาวิชาเทคโนโลยีภูมิทัศน์ สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ ประจำปี 2538
  • ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาวิทยาศาสตร์การเกษตร มหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปี 2549
  • ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาวิชาสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประจำปี 2551
  • หนึ่งในผู้ประกอบการทางสังคมดีเด่น ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก จากมูลนิธิชวอบ (The Schwab Foundation) ประจำปี 2552
  • ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาบริหารธุรกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจำปี 2555
  • ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การ สถาบันบัณฑิต
    พัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ประจำปี 2559
  • ศิษย์เก่าผู้ทรงคุณวุฒิได้รับรางวัล Thomas Hart Benton Mural Medallion มหาวิทยาลัยอินเดียนา (บลูมมิงตัน) ประจำปี 2559

นอกจากนี้ หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ยังดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการมูลนิธิในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีอีกหลายแห่ง ได้แก่ มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) มูลนิธิขาเทียม และมูลนิธิถันยรักษ์ ตลอดจนเป็นกรรมการของหน่วยงานชั้นนำต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน

ด้านชีวิตครอบครัว หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา สมรสกับ คุณหญิงพวงร้อย ดิศกุล ณ อยุธยา มีบุตรชาย 2 คน คือ ม.ล.ดิศปนัดดา ดิศกุล และ ม.ล.ศานติดิศ ดิศกุล เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดที่ได้รับพระราชทาน คือ มหาวชิรมงกุฎ