admin
วารสาร MFLF Bulletin เดือนกันยายน 2561
บทความตีพิมพ์ : Royal Initiative in the Global Context
บทความตีพิมพ์ : The Mae Fah Luang: The Social Transformation Model for the 21st Century
แม่ฟ้าหลวง: CSR ยุคแรก ตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นายกกิตติมศักดิ์ ทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำปีครั้งที่ 1/2564
คณะกรรมการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการประชุมประจำปีครั้งที่ 1/2564
โดยมีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นายกกิตติมศักดิ์ ทรงเป็นประธาน เมื่อวันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ณ วังสระปทุม
ในการนี้ที่ประชุมมีมติปรับเปลี่ยนตำแหน่งคณะกรรมการ ประกอบด้วย
- ม.ร.ว. ดิศนัดดา ดิศกุล (ขวา) จากประธานคณะกรรมการ เป็นประธานคณะที่ปรึกษามูลนิธิฯ
- ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ (กลาง) จากเลขาธิการ และประธานคณะกรรมการบริหาร เป็นประธานคณะกรรมการ
- ดร.วิรไท สันติประภพ (ซ้าย) จากกรรมการ เป็นเลขาธิการ และประธานคณะกรรมการบริหาร
การที่ ดร.วิรไท รับตำแหน่งในครั้งนี้เป็นสิ่งที่น่ายินดีที่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ได้ต้อนรับผู้บริหารรุ่นใหม่ที่มีความสามารถเพื่อนำมูลนิธิฯ ไปเพิ่มพูนประโยชน์แก่ประชาชนหลังจากที่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ดำเนินการมา ตั้งแต่ พ.ศ. 2515
มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ชวนเที่ยวงาน “สีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 7” เทศกาลถนนคนเดินชนเผ่า สนุก ปลอดภัย ท่ามกลางอากาศหนาว
กลับมาอีกครั้งกับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เมื่อ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ชวนเที่ยวเทศกาลสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 7 ท่ามกลางอากาศหนาวสดชื่นกลางขุนเขา และการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวดอยตุง ระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 เวลา 08.00 – 18.00 น. ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ณ โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงราย เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวบ้านในชุมชนได้พัฒนาศักยภาพ และเรียนรู้กระบวนการในการเป็นเจ้าของธุรกิจชุมชน สามารถพึ่งตัวเองได้ ตลอดจนอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี 6 ชนเผ่าในชุมชน ได้แก่ อาข่า ลาหู่ ไทใหญ่ ไทลื้อ ไทลัวะ และจีนยูนนาน ผ่านกิจกรรมร้านค้าชนเผ่า โดยได้จัดพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น ปลอดภัย โดยมีแขกผู้มีเกียรติร่วมงานมากมาย อาทิ ภาษเดช หงส์ลดารมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, จันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ ประธานกรรมการ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ และที่ปรึกษา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน), ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ กรรมการบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด และที่ปรึกษาบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน), นายแพทย์วันชัย ล้อกาญจนรัตน์ รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงราย, เทียมจันทร์ พันธุ์เจริญ รองผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง, กรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย, และพันเอกสมเจตตะณ์ ภักดีบรรณดิษฐ์ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ร่วมงาน เป็นต้น เมื่อวันก่อน
หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ กล่าวว่า “จากสถานการณ์ที่ไม่ปกติอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวที่ซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ เห็นว่าการจัดงานสีสันแห่งดอยตุงครั้งนี้ยิ่งมีความสำคัญกว่าเดิม เนื่องจากเป็นการมอบความสุขและกำลังใจให้คนไทย รวมถึงจะช่วยกระตุ้นธุรกิจภายในประเทศให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง รวมทั้ง เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ในฤดูท่องเที่ยวให้ชุมชนดอยตุงด้วย โดยเฉพาะถ้าสถานการณ์น่าไว้วางใจและสามารถเดินทางภายในประเทศได้อย่างปลอดภัย คนไทยก็จะช่วยสนับสนุนคนไทยด้วยกัน จึงเป็นที่มาของการจัดงาน “สีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 7”
งานสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 7 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “บ้านแห่งความรัก” เพราะประเทศไทยคือบ้านของเราทุกคน ส่วนดอยตุงก็เปรียบเสมือนบ้านของคนในพื้นที่และในจังหวัดเชียงรายที่เราอยากให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงความรัก ความเอาใจใส่ จึงมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพและประสบการณ์อันน่าประทับใจ ทั้งนี้ นอกจากความรักในสถานที่ ผู้มาเยือน และชุมชนแล้ว มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ยังมีความรักให้สิ่งแวดล้อม จึงออกแบบกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และจัดกิจกรรมการชดเชยคาร์บอนเครดิตเพื่อให้เป็นงานที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Carbon Neutral Event) และมีการคัดแยกทั้งหมดเพื่อไม่ให้มีขยะไปสู่บ่อฝังกลบ (Zero Waste to Landfill) โดยงานในปีนี้ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) พร้อมด้วย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) มูลนิธิเอสซีจี บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด
สำหรับไฮไลต์ภายในงานแบ่งเป็นโซนต่างๆ ได้แก่ โซนถ่ายรูปเช็คอิน ชมความงามจากธรรมชาติ ที่พลาดไม่ได้คือ สวนแม่ฟ้าหลวง สวนดอกไม้นับร้อยสายพันธุ์ อาทิ ดอกเจอราเนียม กล้วยไม้รองเท้านารี หลายสายพันธุ์ และ กล้วยไม้พันธุ์ฟาแลนนอปซิส ที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ ได้พัฒนาและเพาะพันธุ์เอง และจุดเช็คอินสุดฮิต ซุ้มทางเข้าใบโคลเวอร์ (Clover Leaf) แห่งความรัก สื่อถึงการต้อนรับแสนอบอุ่นที่อยากให้ทุกคนได้รับความโชคดี และอย่าลืมแวะมาถ่ายรูปกับ โต มาสคอตสัตว์แห่งความโชคดีในตำนานของชาวไทใหญ่ พร้อมนั่งชิลฟังดนตรีและชมการแสดงชนเผ่ารอบงาน ให้ความรู้สึก สุขหัวใจเหมือนได้คืนสู่บ้านอันอบอุ่น ส่วนคนที่รักของอร่อยต้อง โซนอาหาร ลิ้มลองเมนูชนเผ่าที่ส่งต่อกันในครอบครัว อาทิ ซุปไก่ดำของชาวลัวะ ยำข้าวฟืน เมนูเด็ดของชาวไทใหญ่ ของหวานกินอร่อยในหน้าหนาวอย่างข้าวปุ๊กปิ้งโรยน้ำตาลอ้อย หรืออร่อยไปกับเมนูชนเผ่าประยุกต์จากครัวตำหนักที่รังสรรค์พิเศษเฉพาะงานสีสันแห่งดอยตุงครั้งที่ 7 เท่านั้น กับเมนู สปาเกตตีรากชูไก่ทอดมะแขว่น ยำสลัดวอเตอร์เครสไก่ฉีก บะหมี่เส้นสดซุปไก่ดำตุ๋นตำรับยูนนาน ข้าวสดชื่น ข้าวคลุกเคล้าธัญพืช ผลิตผลในพื้นที่ดอยตุง และ เมนูของหวานสุดฟิน ซูเฟลแมคคาเดเมีย และ ครัมเบิลสับปะรดภูแล จากนั้นมาช็อปกันต่อที่ โซนหัตถกรรม สินค้าแฟชั่นงานมือชาวไทยภูเขาแบบดั้งเดิมและแบบประยุกต์ รวมถึงงานหัตถกรรมดีไซน์มีเอกลักษณ์ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอของร้านดอยตุงไลฟ์สไตล์ พร้อมกิจกรรมเวิร์กช็อปสุดน่ารัก อาทิ สอนปั้นเซรามิกโดยช่างปั้นดอยตุงผู้เชี่ยวชาญที่ปั้นเสร็จสามารถนำกลับไปฝากเพื่อนได้ กิจกรรมเวิร์กช็อปสร้างสรรค์โปสการ์ดจากใบไม้และดอกไม้แห้งที่ร่วงหล่นในสวนแม่ฟ้าหลวงให้กลายเป็นงานมือที่สร้างด้วยหัวใจ ส่วนใครที่อยากเรียกเหงื่อท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ของธรรมชาติต้องมาโดน โซนกิจกรรม ที่มีให้ลองเล่นทั้ง ดอยตุง ทรี ท็อป วอล์ค (DoiTung Tree Top Walk) สะพานเรือนยอดไม้ดอยตุงความสูงจากพื้นดินกว่า 30 เมตร หรือการละเล่นท้องถิ่นอย่าง ฟอร์มูล่าดอย ไม้ต่อขา ก็เพลินไปอีกแบบ
สำหรับใครที่หลงใหลอากาศหนาวเย็น หมอก และดอกไม้หายาก ต้องนั่งรถขึ้นไปเที่ยวต่อ ที่ สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวงดอยช้างมูบ จุดสูงสุดของดอยตุงและแนวเทือกเขาดอยนางนอน ที่มีวิวพาโรนามาให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม เป็นเทือกเขาที่กั้นชายแดนไทย-พม่า จุดกำหนิดต้นกุหลาบพันปีคำแดง และกุหลาบพันปีหลายสายพันธุ์ พร้อมกิจกรรมพิเศษ อาทิ มัคคุเทศก์น้อยดอยตุง มุมถ่ายภาพฮิตดอยแตก ใฝ่ดีคาเฟ่ จิบกาแฟกลางสวนดอกไม้ ฝีมือบาริสต้ารุ่นเยาว์ เวิร์กช็อปกับธรรมชาติ และบริการเช่าชุดชนเผ่าสวยๆ ซึ่งเฉพาะงานนี้มีบริการรถรับส่งขึ้นไปดอยช้างมูบฟรีทุกชั่วโมงด้วย
ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการยกระดับ มาตรการป้องกัน การแพร่ระบาดของโรค COVID–19 เชิงรุก ด้วยการดูแลสุขอนามัยขั้นสูงสุด เพิ่มเติมจากมาตรการปกติที่ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ทำความสะอาดพื้นที่และอุปกรณ์ให้บริการ รวมถึงจุดที่มีการสัมผัสบ่อยด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 3 ชั่วโมง การฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทุกสถานที่ท่องเที่ยวเป็นประจำทุกเย็น การฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UV ในทุกพื้นที่ปิดเป็นประจำทุกเย็น และกำหนดจุดใช้บริการแบบเว้นระยะห่างอย่างเคร่งครัด
มาร่วมสนุก ให้สุขหัวใจในวิถีชนเผ่าของงานสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 7 พร้อมติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของเทศกาลสีสันแห่งดอยตุงครั้งที่ 7 ได้ที่ www.facebook.com/DoiTungClub, โทร. 02-252-7114 หรือ 053-767-015-7
“คิดถึง…สมเด็จย่า” ครั้งที่ 23 “ในความคิด…คำนึง” น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมเรียนรู้ตามรอย “สมเด็จย่า” ในโอกาสครบรอบ 120 ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพ และ 25 ปีวันคล้ายวันสวรรคต
เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า ในวันที่ 21 ตุลาคม ของทุกปี บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และศูนย์การค้าสยามพารากอน ร่วมกับ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ขอเชิญร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จย่า ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ในนิทรรศการ “คิดถึง…สมเด็จย่า” ครั้งที่ 23 ภายใต้ชื่องาน “In Her Thoughts” หรือ “ในความคิด…คำนึง”
ระหว่าง วันที่ 21-25 ตุลาคม 2563 ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานเปิดงาน ในวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม 2563 เวลา 09.00 น.

ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ เลขาธิการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า “นิทรรศการ “คิดถึง…สมเด็จย่า” จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อพุทธศักราช 2539 และได้จัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย โดยทรงเป็นแบบอย่างของการดำเนินชีวิตในทุกๆ ด้าน ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการอย่างต่อเนื่องยาวนาน และสำหรับในปีนี้ นับเป็นครั้งที่ 23 นับเป็นวาระพิเศษครบรอบ 120 ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพ 10 รอบปีชวดนักษัตร และ 25 ปี วันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จย่า นิทรรศการในปีนี้จึงจัดขึ้น ภายใต้หัวข้อ “In Her Thoughts” หรือ “ในความคิด…คำนึง” เพื่อเฉลิมพระเกียรติและย้อนรำลึกถึงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระจริยวัตร ที่ได้ทรงเรียนรู้ทั้งจากบุคคลที่ทรงใกล้ชิด สังคมที่ทรงดำรงพระชนม์ชีพ รวมทั้งอิทธิพลจากนักคิด นักปรัชญา และตำราวิชาการต่างๆ ที่มีส่วนหล่อหลอมจนกลายเป็นทักษะชีวิต ทักษะทางอารมณ์และสังคม มาตลอดพระชนม์ชีพ ซึ่งไฮไลท์ภายในงานได้มีการจำลองสมุดเลคเชอร์ลายพระหัตถ์ภาษาฝรั่งเศสของสมเด็จย่ามาจัดแสดงให้ประชาชนได้ชมเป็นครั้งแรกด้วย”

นิทรรศการครั้งนี้นำเสนอในรูปแบบเส้นเวลา (Timeline) นับตั้งแต่ปีแรกที่ประสูติ จนกระทั่งสวรรคต และพระราชปณิธานที่มีผู้สานต่อผ่านมูลนิธิหรือองค์กรต่างๆ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ดังนี้
ช่วงที่ 1 พ.ศ. 2443-2460 ชีวิตในวัยเยาว์ เรียนรู้ เติบโตในชุมชนเล็กๆ ใกล้วัดอนงคาราม ได้เป็นข้าหลวงในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ (กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร) กระทั่งได้ร่ำเรียนในฐานะนักเรียนพยาบาล โรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์และหญิงพยาบาลแห่งศิริราช และมีโอกาสได้รับทุนการศึกษาวิชาพยาบาล ไปศึกษาต่อณ สหรัฐอเมริกา
ช่วงที่ 2 พ.ศ. 2460-2466 ชีวิตของการเป็นนักเรียนทุนในต่างประเทศทำให้มีโอกาสเรียนรู้สิ่งใหม่ ตลอดทั้งเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ ศิลปวัฒนธรรม และฝึกทักษะด้านภาษา และจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตนักเรียนทุนพยาบาล ณ สหรัฐอเมริกา คือการได้พบและอภิเษกสมรสกับสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ และสร้าง “ครอบครัวมหิดล”
ช่วงที่ 3 พ.ศ. 2467-2475 ชีวิตครอบครัวเริ่มได้ไม่นาน ก็ประสบกับความสูญเสีย สมเด็จฯเจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ สิ้นพระชนม์ นับจากนั้น แม้การอภิบาลพระโอรสธิดาจะดำเนินไปท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสังคมและประเทศ แต่เจ้านายเล็กๆ ก็เติบโตอย่างมีสุขอนามัยที่สมบูรณ์ ณ วังสระปทุม
ช่วงที่ 4 พ.ศ. 2476-2514 ช่วงเวลาที่ได้ปฏิบัติพระราชภารกิจยิ่งใหญ่ในการถวายพระอภิบาลและอบรมพระโอรสธิดา และทุกพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปศึกษาต่อต่างประเทศ นอกจากนั้น สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ ทรงใช้เวลาศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทั้งวิชาปรัชญา ภาษาสันสกฤต และบาลี อย่างจริงจัง ซึ่งนำเสนอผ่านสมุดเลคเชอร์ลายพระหัตถ์ และตำราวิชาต่างๆ ที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงสนพระราชหฤทัย
ช่วงที่ 5 พ.ศ. 2515-2538 นอกจากพระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติด้วยความเมตตากรุณา ส่งไปถึงอาณาประชาราษฎร์ทุกหมู่เหล่าแล้ว ในยามที่ทรงว่างหรือภายหลังการทรงงาน ก็จะทรงพักพระอิริยาบถทรงงานอดิเรกที่โปรด ด้วยทรงตระหนักว่า “เวลาเป็นของมีค่า” ทั้งเรื่องงานปั้น งานปักผ้า งานดอกไม้แห้ง งานวาดรูปบนเครื่องกระเบื้องเซรามิก และความสนพระราชหฤทัยเกี่ยวกับดาราศาสตร์ โปรดให้ตกแต่งเพดานพระตำหนักดอยตุง เป็นภาพสุริยจักรวาล กลุ่มดาวจักรราศี และกลุ่มดาวฤกษ์สำคัญ ซึ่งจำลองมาให้ชมภายในนิทรรศการครั้งนี้ด้วย ตราบจนถึงวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพ เมื่อเสด็จสวรรคต ทรงเป็น “สมเด็จย่า” ที่ชาวไทยเคารพ เทิดทูน ผูกพันมาจนตราบทุกวันนี้
ช่วงที่ 6 พ.ศ. 2539 – ปัจจุบัน พระราชปณิธานยังคงได้รับการสืบสานผ่านหน่วยงานและองค์กรต่างๆ มาจนถึงปัจจุบัน เช่น มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ และโครงการพัฒนาดอยตุงฯ รวมทั้งการดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาความยากจน ยกระดับฐานะทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชน
พบกับนิทรรศการ “คิดถึง…สมเด็จย่า” ครั้งที่ 23 ภายใต้หัวข้อ “In Her Thoughts” หรือ “ในความคิด…คำนึง” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พร้อมกับการเรียนรู้ตามรอย ‘สมเด็จย่า’ จากพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระจริยวัตรอันงดงามตลอดพระชนม์ชีพ นอกจากนี้ภายในนิทรรศการยังจัดจำหน่ายสินค้าจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ Doi Tung Café และผลิตภัณฑ์จาก Doi Tung Lifestyle รวมถึงจำหน่ายไม้ดอก ไม้ประดับนานาพันธุ์ ระหว่างวันที่ 21-25 ตุลาคม 2563 ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 02-610-8000 หรือ Facebook : SiamParagon
มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ คว้า 4 รางวัลงานดีไซน์สร้างสรรค์ระดับประเทศ “DEmark 2020” จากกระทรวงพาณิชย์
ชูแนวคิดการออกแบบอย่างยั่งยืน ลดการใช้ทรัพยากรใหม่ในการผลิตสินค้าแฟชั่น และผสานแรงบันดาลใจจากวิถีชนเผ่า โดย 4 ผลงานที่ได้รับรางวัล ได้แก่ เสื้อโค้ทม้ง ผลิตจากเส้นใยพลาสติกรีไซเคิล ย่ามชนเผ่า ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติเยื่อไผ่ เซรามิกเผาโดยใช้เศษหญ้าแฝกและเปลือกแมคคาเดเมียเป็นเชื้อเพลิง และบรรจุภัณฑ์กาแฟพีเบอร์รีทำจากเยื่อกระดาษสา มุ่งเน้นนำเศษวัสดุเหลือใช้มาสร้างประโยชน์เพื่อลดของเสียจากกระบวนการผลิตให้กลายเป็นศูนย์
มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ นำทีมดีไซเนอร์รับรางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบดีปี 2563 หรือ Design Excellence Award 2020 (DEmark) จัดโดย สำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ หรือ DITP เพื่อส่งเสริมและยกระดับสินค้าไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ณ โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท24 เมื่อวันอังคารที่ 8 กันยายน 2563
#มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง #DEMARK2020 #circulardesign #sustainabledesign #zerowastedesign