การประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาทางเลือก ปี 2562 (Expert Group Meeting on Alternative Development – EGM)

มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม EGM 2562 ร่วมกับรัฐบาลไทย เยอรมนี เปรู และ UNODC ระหว่างวันที่ 15-17 ธันวาคม 2562 ที่จังหวัดเชียงราย โดยการประชุม EGM จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา มุ่งหวังให้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาทางเลือกมีเวทีแลกเปลี่ยนมุมมองเพื่อผลักดันประเด็นสำคัญต่างๆ เข้าสู่เวทีระดับนานาชาติ โดยเฉพาะการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติดแห่งสหประชาชาติ (Commission on Narcotic Drugs – CND) การประชุม EGM 2562 มีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 58 คน ประกอบด้วย ผู้แทนรัฐบาลจาก 14 ประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน โดยการประชุมแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 

  1. การศึกษาดูงานพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ ซึ่งเป็นต้นแบบโครงการพัฒนาทางเลือกที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก และปัจจุบันได้ยกระดับการพัฒนาไปอีกขั้น เช่น สร้างศักยภาพชาวบ้านให้สามารถเป็นผู้ประกอบการและสร้างธุรกิจของตนเอง สร้างเสริมวัฒนธรรมแห่งการรักษากติกาในชุมชน และขับเคลื่อนธุรกิจดอยตุงด้วยหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน 
  2. การประชุมหารือประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาทางเลือก สาระสำคัญจากการประชุมมีดังนี้
    1. การมีส่วนร่วมของภาคเอกชนเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาทางเลือกไปสู่ความสำเร็จและยั่งยืน โดยต้องอาศัยการมีหุ้นส่วนภาคเอกชนที่เหมาะสม มีวิสัยทัศน์และแนวทางการดำเนินงานที่สอดคล้องกัน อีกทั้งมีการกำหนดบทบาท และรูปแบบการดำเนินงานร่วมกันอย่างชัดเจน
    2. ประเด็นด้านหลักนิติธรรมในเวทีการพัฒนาทางเลือกมักถูกเชื่อมโยงกับการปราบปรามผู้กระทำความผิดด้านยาเสพติดเป็นหลัก ประเทศไทยนำเสนอการเสริมสร้างหลักนิติธรรมด้วยชุมชนเอง โดยโครงการพัฒนาทางเลือกสามารถช่วยสร้างเสริมวัฒนธรรมแห่งการเคารพกติกาภายในชุมชน เช่น สนับสนุนให้ชุมชนกำหนดกฎเกณฑ์และร่วมบังคับใช้กฎนั้นควบคู่ไปกับกฎหมายของประเทศ
    3. ปัจจุบัน ปัญหายาเสพติดไม่เพียงส่งผลกระทบต่อสังคมชนบทที่มีการปลูกพืชเสพติด แต่ยังแพร่ระบาดในพื้นที่เมือง ซึ่งได้รับผลกระทบจากยาเสพติดสังเคราะห์ต่างๆ การใช้หลักพัฒนาและแนวทางปฏิบัติที่ดีของการพัฒนาทางเลือกจึงควรนำมาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ปัญหายาเสพติดในบริบทเมืองด้วย เช่น การยึดคนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา รับฟังความต้องการของชุมชน สร้างอาชีพทางเลือกสุจริต จัดการปัญหาความยากจน และดำเนินโครงการในระยะยาว

หม่อมราชวงศ์ ดิศนัดดา ดิศกุล ร่วมงาน “ครบ 70 ปี ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและมหาวิทยาลัยอินเดียน่า”

หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานกรรมการ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยอินเดียน่าร่วมงาน “ครบ 70 ปี ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและมหาวิทยาลัยอินเดียน่า” ในฐานะศิษย์เก่าผู้ได้รับรางวัล Thomas Hart Benton Mural Medallion เมื่อปี 2559 ซึ่งถือเป็นรางวัลสูงสุดสำหรับศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยอินเดียน่า 

นอกจากนี้ หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา ดิศกุล ยังได้รับเชิญจาก Kelley School มหาวิทยาลัยอินเดียน่า กล่าวปาฐกถาเพื่อย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและศิษย์เก่า ซึ่งจะเป็นพลังที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและโลกนี้ได้อย่างแท้จริง ดังเช่นความร่วมมือระหว่างมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ และ Kelley School  หม่อมราชวงศ์ดิศนัดดา กล่าวว่า

“ณ ตอนนี้ มหาวิทยาลัยอินเดียน่า โดยเฉพาะ Kelley School เป็นพันธมิตรทางวิชาการที่สำคัญของเรา เราเปิดโอกาสให้นักศึกษาปริญญาโทได้เรียนรู้เรื่องโครงการพัฒนาดอยตุงฯ ทั้งภาคการศึกษา และต้องเดินทางมาเรียนรู้ที่ดอยตุงด้วย เพื่อปรับคำแนะนำเชิงธุรกิจของเขาให้สอดคล้องกับภูมิสังคมและเป็นไปได้จริง”

ลงนาม MOU นำเทคโนโลยีอวกาศพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน

หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ Gistda กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรมการใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ในพิธีเปิดงาน “Thailand Space Week 2019” มหกรรมอวกาศระดับนานาชาติ ณ อิมแพค ฟอรั่ม เมืองทองธานี เพื่อการวางแผนพัฒนาพื้นที่ด้วยศาสตร์พระราชาบนฐานความยั่งยืน (MOU) เพื่อแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวิชาการ ด้านการวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ตลอดจนนำข้อมูลที่ได้มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และวางแผนบริหารการจัดการชุมชนได้อย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้วยศาสตร์พระราชา

“Thai Textile: A Touch of Thai” งานแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยผ่านแนวคิด “ผ้าไทยสู่สากล” ณ ประเทศญี่ปุ่น

หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ คัดสรรผลิตภัณฑ์แฟชั่นชิ้นพิเศษจากแบรนด์ดอยตุง ที่ผสานงานฝีมือประณีตเข้ากับแนวคิดรักษ์โลกด้วยนวัตกรรมการผลิตสิ่งทอจากขยะเหลือใช้ แสดงในงาน “Thai Textile: A Touch of Thai” ภายใต้ “โครงการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ” เส้นทางประเทศญี่ปุ่น จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับหน่วยงานรัฐและเอกชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” เผยแพร่พระราชกรณีกิจด้านการอนุรักษ์ส่งเสริมผ้าไทย ด้วยแนวคิด “ผ้าไทยสู่สากล” โดยมีบุคคลสำคัญของไทยและญี่ปุ่นร่วมงานคับคั่ง ระหว่างวันที่ 19 – 26 สิงหาคม 2562 ณ ประเทศญี่ปุ่น 

โดยจัดแสดงคอลเล็กชัน “MAWATA – HILLTRIBE Bumble Jacket” และ “OVERSIZE – HILLTRIBE Bag” ที่ได้รับรางวัล DEmark Award Winner 2019 และคอลเล็กชัน “Mae Fah Luang Autumn/Winter 2018-2019” ที่เคยจัดแสดงในงาน Milan Design Week 2019 ก่อนวางจำหน่ายต่อที่ La Rinascente ห้างสรรพสินค้าระดับโลก ณ กรุงมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี

สัมมนาวิชาการ “การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับเด็กที่ไม่ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาแม่”

มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงรายเขต 3 และมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จัดงาน สัมมนาวิชาการระหว่างวันที่ 8 -9 สิงหาคม 2562 ณ หอประชุมนานาชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ในหัวข้อ “การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับเด็กที่ไม่ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาแม่” ของโรงเรียนต้นแบบในพื้นที่ โครงการพัฒนาดอยตุงฯ และโรงเรียนขยายผลการพัฒนาทั้งสิ้น 39 โรงเรียน รวมถึงสาธิตการสอนระหว่างครูผู้สอนในจังหวัดเชียงราย กับครูผู้สอนในเขตจังหวัดภาคเหนือตอนบนที่มีบริบทใกล้เคียงกัน โดยภายในงานมีผู้บริหารสถาบันการศึกษา ครูผู้สอน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่สนใจ จากจังหวัดเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมกว่า 600 คน  

ปัจจุบัน องค์ความรู้ด้านการพัฒนาของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ กลายเป็นต้นแบบที่ได้รับการยอมรับและเผยแพร่ในวงกว้าง โดยมีหลักการสำคัญคือ การปลูกคน ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน  และคนรุ่นใหม่คือกำลังที่สำคัญที่สุด โดยการดำเนินงานด้านพัฒนาการศึกษานั้น มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ได้ตระหนักถึงประเด็นการใช้ภาษาไทยของเด็กในพื้นที่ซึ่งส่วนมากไม่ได้ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาแม่ จึงต้องให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องอย่างต่อเนื่องจริงจัง และได้พัฒนาผ่านโรงเรียนต้นแบบในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ 8 โรงเรียนตลอดระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมา 

“โครงการคลินิกทันตกรรมเคลื่อนที่เฉลิมพระเกียรติฯ” ประจำปี 2562

มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ร่วมกับ หน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คณะทันตแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ” “จังหวัดยะลา” และ “สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา” ให้บริการตรวจสุขภาพ รักษาและให้ความรู้เรื่องสุขภาพปากและฟันแก่ประชาชนในพื้นที่ฟรีระหว่างวันที่ 10 – 11 กรกฎาคม 2562 ณ โรงเรียนบันนังสตาอินทรฉัตร มิตรภาพที่ 200 ที่ระลึก ส.ร.อ. อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เพื่อสืบสานแนวพระราชดำริ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” และเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” เป็นการจัดโครงการฯ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นครั้งที่ 2 ในปี 2562 โดยได้รับความร่วมมือร่วมใจจากเหล่าทันตแพทย์อาสามาให้บริการถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และผ่าฟันคุด รวมถึงให้ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพปากและฟัน มีผู้เข้ารับการรักษาจำนวน 2,689 คน

การประชุมเวทีระดับสูงทางการเมืองว่าด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืน (High-level Political Forum on Sustainable Development – HLPF) ครั้งที่ 7

เมื่อวันที่ 9-15 กรกฎาคม 2562 หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ร่วมเป็นองค์ปาฐกในการประชุมคู่ขนาน หัวข้อ “Regional contributions to empower people and promote equality: experiences, lessons learnt and way forward” ในการประชุม HLPF ซึ่งเป็นการประชุมด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ ภายใต้คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ จัดขึ้น ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา บอกเล่าประสบการณ์การดำเนินธุรกิจเพื่อสังคมของโครงการพัฒนาดอยตุงฯ เพื่อแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร และการวางนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เข้มข้นขึ้นในอนาคต มีผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 70 คน

การประชุมวิชาการสารเสพติดระดับชาติ ครั้งที่ 11 : สภาวการณ์นานาชาติที่มีผลต่อการใช้สารเสพติด (International Influences on Drug Abuse)

หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ เป็นวิทยากรพิเศษในหัวข้อ “อนาคตของการพัฒนาทางเลือก” ในการประชุมวิชาการสารเสพติดระดับชาติ ครั้งที่ 11 จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และหน่วยงานภาคี เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการแพร่ระบาด การป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศไทยและต่างประเทศ รวมทั้งจุดประกายความคิดให้เกิดการนำไปประยุกต์ใช้จริง ตลอดจนพัฒนาศักยภาพให้แก่นักวิจัย นักวิชาการ และผู้ปฏิบัติงานด้านสารเสพติดอย่างต่อเนื่อง

ปัญหายาเสพติดในวันนี้ได้วิวัฒนาการจากพืชเสพติดไปสู่สารเสพติดสังเคราะห์ ข้อมูลสถานการณ์โลกจากสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) พบว่า ปัญหาการปลูกพืชเสพติดในภูมิภาคของเราลดลง แต่ปัญหาสารเสพติดสังเคราะห์เพิ่มสูงขึ้น โดยในประเทศไทยมีการนำเข้ายาบ้าและยาไอซ์ 26% จากประเทศในภูมิภาคนี้ ส่งผลให้รัฐบาลไทยเสียงบประมาณในการแก้ไขปัญหายาเสพติดสูงถึง 166,722 ล้านบาท

ส่วนใหญ่แล้ว แนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดในปัจจุบันจะดำเนินไปในแนวการป้องกันและปราบปรามซึ่งเป็นเชิงยุทธการ แต่ “การพัฒนาทางเลือก” จะมองต่างออกไป คือ เห็นว่าคนที่หลงเข้าไปอยู่ในวงจรของการค้ายาเสพติด ยอมทำผิดกฎหมาย เป็นเพราะไม่มีทางเลือก ไม่มีโอกาสในชีวิต ดังนั้น หากยังคงยากจน และยังสังคมยังไม่เปิดโอกาสให้คนเหล่านั้นได้เปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ ปัญหาดังกล่าวก็ยังไม่อาจจะแก้ไขได้ แต่หากช่วยให้คนในพื้นที่ต่างๆ มีรายได้เพิ่มขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จึงจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างยั่งยืน   

การที่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ มุ่งมั่นดำเนินงานด้านการพัฒนาทางเลือกทั้งในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ และในพื้นที่โครงการขยายผลอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่า “การพัฒนาทางเลือก” นอกจากจะสามารถแก้ปัญหาการปลูกพืชเสพติดซึ่งเป็นปัญหาในอดีตได้แล้ว ยังสามารถแก้ไขปัญหาสารเสพติด ได้แก่ ยาบ้าและยาไอซ์ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบันได้อีกด้วย 

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จพระราชดำเนินไปทรงตรวจเยี่ยมโครงการร้อยใจรักษ์

ที่หมู่บ้านห้วยส้าน ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งดำเนินงานสนับสนุนมาตรการและนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน  3 ครั้ง ดังนี้  

ครั้งที่ 1 

วันที่ 18 ตุลาคม 2561 ทรงบรรยายผลการดำเนินการโครงการร้อยใจรักษ์ ในรอบ 1 ปี ให้กับหน่วยงานราชการที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ ทอดพระเนตรการดำเนินงานของกลุ่มอาสาทำดี หรือกลุ่มอาสาสมัครบำบัดยาเสพติด ณ แปลงสาธิตเกษตรและศูนย์ประสานงานเพื่อความมั่นคงบ้านห้วยส้าน ทรงรับฟังบรรยายเรื่องการดำเนินงานด้านสาธารณสุข และการจัดทำกฎระเบียบชุมชนในพื้นที่โครงการ พร้อมกันนั้นทรงมีพระปฏิสันถารกับชาวบ้านที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ 

ครั้งที่ 2 

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 พระราชทานเงินแด่อาสาทำดีรุ่นที่ 1 ซึ่งผ่านการตรวจสารยาเสพติดและผ่านการฝึกอบรมการทำงานกับโครงการ และทรงร่วมหารือกับข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขในประเด็นด้านสาธารณสุขและแนวคิดในการจัดตั้งศูนย์บำบัดผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่ ตลอดจนทรงร่วมกิจกรรมทางการเกษตรต่างๆ กับชาวบ้านในพื้นที่ เช่น การเก็บดอกเก๊กฮวย และการเกี่ยวข้าว ในการนี้ ยังทรงรับฟังการบรรยายเรื่องข้าวนา และทรงร่วมเกี่ยวข้าวพันธุ์หอมมะลิกับชาวบ้านที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ จำนวน 354 คน ตลอดจนทอดพระเนตรสินค้าในตลาดชุมชน ณ กาดหลวงร้อยใจรักษ์อีกด้วย 

ครั้งที่ 3 

วันที่ 3 กรกฎาคม 2562 พระราชทานบัตรสมาชิกโครงการร้อยใจรักษ์ให้ผู้แทนหรือผู้นำชุมชนของแต่ละหมู่บ้านในโครงการฯ ทรงรับฟังปัญหา ความต้องการ และความคิดเห็นของชาวบ้านที่มีต่อโครงการฯ พร้อมกันนี้ได้พระราชทานข้อคิดเห็นให้ชาวบ้านที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ รวมถึงทรงนำเสนอแผนงานพัฒนาอาชีพด้านการเกษตรและปศุสัตว์ของโครงการฯ ซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนในพื้นที่ด้วยพระองค์เอง ทั้งยังทรงสอบถามปัญหาและอุปสรรคในการทำงานของหน่วยงานราชการในพื้นที่ เรื่องผลการบังคับใช้ระเบียบชุมชน และสถานการณ์ ความเปลี่ยนแปลงในชุมชนหลักจากการดำเนินงานโครงการร้อยใจรักษ์ การทรงงานอย่างติดตามใกล้ชิดด้วยพระองค์เองเหล่านี้สร้างขวัญและกำลังใจอันดีแก่ชาวบ้าน ข้าราชการที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ตลอดจนเจ้าหน้าที่โครงการฯ ในการทำงานพัฒนาเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนต่อไป